วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ                              นายวุฒิไกร                 สุกล                ชัยก๋า
สัญชาติ                     ไทย                              เชื้อชาติ          ไทย       
                                  ศาสนา     พุทธ
เกิดวันที่                    25   ตุลาคม  .. 2528       
ภูมิลำเนา                 24 หมู่ที่ 5.ศรีถ้อย   .แม่ใจ   .พะเยา  
                                 56130 
โทรศัพท์                  083-7642718
ที่อยู่ปัจจุบัน           24 หมู่ที่ 5.ศรีถ้อย   .แม่ใจ   .พะเยา  
                               56130             
โทรศัพท์                  083-7634226
ชื่อบิดา                     นายนิมิต      ชัยก๋า                             
                                 อาชีพ               เกษตรกร
ชื่อมารดา                 นางบุญตัน    ชัยก๋า                            
                                 อาชีพ               เกษตรกร
ชื่อคู่สมรส     -                       อาชีพ             -

********************************************************

เริ่มทำงานตำแหน่ง              ครูอัตราจ้างโรงเรียนเจริญใจ                    
อัตราเงินเดือน                      7,260  บาท
วันที่เริ่มทำงาน                     16   พฤษภาคม พ.. 2552 อายุ     26 ปี 

******************************************************




ข้อมูลการพัฒนาตนเอง
ทางวิชาชีพครู
 
การแสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
การอบรมสัมมนาการพัฒนาครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
การอบรมการใช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551
อบรมโครงการพัฒนาหัวหน้ากลุ่มสาระบุคลากรแกนนำปฐมวัย
อบรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
อบรมโครงการ สอนอย่างไรให้บรรลุตัวชี้วัด



วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

เทคโนโลยีนวัตกรรมในท้องถิ่น

หลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่น หมายถึง หลักสูตรที่กำหนดให้ผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เรียนรู้เนื้อหาที่เกี่ยวกับท้องถิ่ที่ตนอาศัยอยู่ในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ประเพณีและวัฒนธรรม ตลอดจนอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน (วีรนุช ปิณฑวณิช 2543 : 19)
เนื่องจากสภาพสังคมและเศรษฐกิจในแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น หลักสูตรท้องถิ่นของแต่ละที่จึงตกต่างกันและเหมะสมกับท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งโดยเฉพาะ การพัฒนาหลักสูตรสำหรับท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยบางประการเป็นตัวกำหนด เช่น สภาพทางภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้ง ซึ่งอาจใช้ในการแบ่งเขตการจัดการศึกษาและความแตกต่างกันของสภาพวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของกลุ่มคนในแต่ละพื้นที่

ความจำเป็นของการมีหลักสูตรท้องถิ่น

เนื่องจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดทำขึ้นโดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการได้รับการพัฒนาขึ้นน้นถือเป็นหลักสูตรแกนกลาง ที่เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสุดท้าย คือ การให้ผู้เรียนมีคุณสมบัติ หรือมีคุณลักษณะร่วมบางประการที่เหมือนกัน แต่อย่างก็ตามในสภาพความเป็นจริง พื้นฐานทางด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจในประเทศไทยย่อมมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น การจัดการเรียนการสอนให้กับกลุ่มผู้เรียนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัจจัยพื้นฐานแตกต่างกัน โดยใช้หลักสูตรกลางเพียงอย่างเดียว จึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมยิ่ง ถึงแม้ภาพรวมของวัฒนธรรมในสังคมไทย จะมีลักษณะร่วมที่เหมือนกันแต่หากพิจารณาภาพย่อยแล้วจะพบกับวัฒนธรรมและสังคมท้องถิ่นที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ดังนั้นการไม่นำวัฒนธรรมและสภาพสังคมและเศรษฐกิจและภูมิปัญญาท้องถิ่นมากำหนดไว้ในหลักสูตรจึงเป็นการจัดการศึกษาที่ละเลยความเป็นไทย ทำให้คนไทยขาดความรู้เกี่ยวกับตนเองและองค์ความรู้ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้
นอกจากนี้ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพโดยเป็นไปตามทิศทางการพัฒนาประเทศนั้น ก็ควรมีจุดเน้นที่ต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของไทยอยู่บนฐานของอาชีพเกษตรกรรม แต่การศึกษาไทยที่ผ่านมาจะเน้นการผลิตคนให้มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมและการให้บริการ ทั้งที่ในสภาพความเป็นจริงแต่ละพื้นที่เรายังต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถมีความแตกต่างกันในการพัฒนาอาชีพของคนไทยในด้าน การทำนา ทำสวนยาง สวนปาล์ม สวนผลไม้ ทำการประมง เลี้ยงสัตว์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพพื้นฐานที่เพียงพอสำหรับนำไปเป็นต้นทุนสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในแต่ละลักษณะท้องถิ่น
กล่าวโดยสรุป ความจำเป็นของการมีหลักสูตรท้องถิ่นก็เนื่องจากหลักสูตรแกนกลางซึ่งเป็นหลักสูตรระดับชาติ ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง อันเนื่องมาจากความต้องการของแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน จึงต้องมีการนำหลักสูตรระดับชาติมาปรับให้เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Beauchamp (1968:212) ที่กล่าว่า โรงเรียนแต่ละแห่งมีหน้าที่จัดการศึกษาให้เหมาะสมกับชุมชนนั้นๆ เพราะชุมชนแต่ละชุมชนมีสภาพปัญหาและความต้องการแตกต่างกัน ท้องถิ่นควรต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นของ
ตนเอง

แนวทางในการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น
ในการพัฒนาหลักสูตรตามความต้องการของท้องถิ่นนั้น สถานศึกษาสามารถดำเนินการได้ในลักษณะต่อไปนี้
1. ปรับกิจกรรมการเรียนการสอนหรือจัดกิจกรรมเสริม ในแต่ละกลุ่มวิชาในทุกระดับชั้นโดยปรับปรุงจากหลักสูตรแกนกลางโดยไม่ทำให้จุดประสงค์ของหลักสูตรเปลี่ยนแปลง
2.ปรับรายละเอียดของเนื้อหาโดยเพิ่มหรือลดรายละเอียดจากหลักสูตรแกนกลาง
3. ปรับปรุงหรือเลือกใช้สื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับท้องถิ่น
4. จัดทำสื่อการเรียนการสอนขึ้นมาใหม่ เช่นหนังสือเรียน คู่มือครู หนังสือเสริมประสบการณ์ แบบฝึกหัด หรือสื่ออื่น ๆเพื่อนำมาใช้ในการจัดการรเยนการสอนให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ เนื้อาและสภาพท้องถิ่น โดยสื่อเหล่านี้อาจใช้กับเนื้อในรายวิชาที่มีอยู่เดิมหรือรายวิชาใหม่ที่พัฒนาขึ้นก็ได้
5. จัดทำคำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติมจากที่ปรากฏในหลักสูตรแกนกลาง ทั้งนี้คำอธิบายรายวิชาที่จัดทำขึ้นต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์ เนื้อหาและความต้องการของท้องถิ่น
ขั้นตอนในการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น
ในการพัฒนาหลัสูตรท้องถิ่นนั้นสามารถดำเนินการได้ทั้งในระดับโรงเรียน กลุ่มโรงเรียน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่ง ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์ (อ้างถึงใน สานปฏิรูปการศึกษา 2544 : 28) ได้เสนอไว้ 12 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่1 จัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำหลักสูตร โดยผู้บริหารโรงเรียนคัดเลือกครู ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการในท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำชุมชนและปราชญ์ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆมาเป็นคณะทำงานเพื่อร่างหลักสูตรท้องถิ่น
ขั้นที่2 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน คณะทำงานต้องทำการศึกษาสภาพและความต้องการของท้องถิ่นเพื่อให้หลักสูตรนั้นๆเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยรวบรวมข้อมูลจากคนในท้องถิ่นด้วยวิธีการสัมภาษณ์ตามแบบสอบถาม การสังเกต ฯลฯ สำรวจความต้องการของผู้เรียนเพื่อให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกับศักยภาพความต้องการของผู้เรียน ศึกษาองค์ประกอบต่างๆ ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อพิจารณาว่ามีส่อนใดบ้างที่ท้องถิ่นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียนด้วยว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอะไรบ้าง เพื่อนำไปปรับปรุงให้โรงเรียนมีความพร้อมมากที่สุด และสามารถนำหลักสูตรท้องถิ่นไปใช้ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ
ขั้นที่3 กำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตร คณะทำงานจะต้องศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการของท้องถิ่นและผู้เรียน จากนั้นกำหนดจุดประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนเมื่อเรียนจบรายวิชานั้นๆ ที่สำคัญคือจะต้องเป็นจุดประสงค์ที่สามารถเป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ
ขั้นที่4 กำหนดเนื้อหา เป็นการนำจุดประสงค์จากขั้นที่ 3 มาวิเคราะห์และกำหนดเนื้อหาสาระของรายวิชาอย่างกว้างๆ ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายวิชานั้นๆ จากนั้นจึงแยกออกเป็นเนื้อหาย่อย ซึ่งในส่วนนี้สามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับสภาพของแต่ละท้องภิ่นและผู้เรียนได้ ตลอดจนมีความต่อเนื่องกับรายวิชาในขั้นต้นและรายวิชาต่างๆ
ขั้นที่5 กำหนดกิจกรรม พิจารณาจากจุดประสงค์แต่ละข้อ กิจกรรมที่กำหนดไม่ควรมากหรือน้อยเกินไป เน้นทักษะกระบวนการ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรม โดยมีครูเป็นผู้ประสานกิจกรรมและชี้แนะ
ขั้นที่6 กำหนดคาบการเรียน ถ้ารายวิชาที่จัดทำได้กำหนดให้เป็นวิชาบังคับเลือก คาบเวลาเรียนที่กำหนดจะต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในโครงสร้างของหลักสูตร ถ้าเป็นรายวิชาเลือกเสรี สามารถกำหนดตามความเหมาะสมกับจุดประสงค์และเนื้อหาที่กำหนดให้เรียน แต่ความสัมพันธ์กับโครงสร้างของกลุ่มวิชาที่เป็นอยู่เดิมด้วย ในกรณีที่เนื้อหามากอาจจัดทำเป็นหลายวิชา และอาจมีได้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
ขั้นที่7 กำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล คณะที่ทำงานควรกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผลในรายวิชาที่ทำขึ้นใหม่เพื่อผู้นำไปใช้จะได้ทำการวัดและประเมินผลได้ตรงตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร สิ่งที่ควรระบุคือรายวิชาที่สร้างขึ้นจะมีการวัดและประเมินผลแบบใด ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และ / หรือเมื่อจบหลักสูตร ใช้วิธีการและเครื่องมือในการวัดผลอะไร ใช้เกณฑ์ใดในการประเมินผล
ขั้นที่8 จัดทำเอกสารหลักสูตร หลังจากจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นในรายวิชาใหม่แล้ว ควรจะต้องจัดทำเอกสารหลักสูตร เช่น แผนการสอน คู่มือครู หนังสืออ่านเพิ่มเติม และหนังสือต่างๆ เป็นต้น เพื่อไห้ผู้ใช้หลักสูตรสามารถนำหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นที่9 ตรวจสอบคุณภาพและการทดลองใช้หลักสูตร คณะทำงานควรจะพิจารณาร่วมกันหรือไห้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าองค์ประกอบต่างๆ ของหลักสูตร เช่น จุดประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม ฯลฯ มีความสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร วัสดุหลักสูตร เช่น แผนการสอน สื่อการเรียนการสอนต่างๆ มีความสอดคล้องกับหลักสูตรหรือไม่ ภาษาที่ใช้มีความชัดเจนเพียงใด หากพบข้อบกพร่องหรือปัญหา จะทำการแก้ไข จากนั้นคณะทำงานจึงคัดเลือกกลุ่มทดลองและกำหนดวิธีการประเมินผล เพื่อพิจารณาว่าหลักสูตรท้องถิ่นที่สร้างขึ้นมาใหม่ และสื่อการเรียนการสอนต่างๆ สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้หรือไม่อย่างไรในการทดลองใช้หลักสูตรคณะทำงานจะต้องเตรียมครูผู้สอนให้เข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรและการใช้หลักสูตรเสียก่อน จากนั้นจึงทดลองให้ครูนำไปใช้ในชั้นเรียน โดยมีการนิเทศติดตามผลการใช้หลักสูตร นำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงหลักสูตรให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นก่อนนำไปใช้จริงต่อไป
ขั้นที่10 เสนอขออนุมัติใช้หลักสูตร เมื่อตรวจสอบคุณภาพและแก้ไขหลักสูตรท้องถิ่นที่สร้างขึ้นเรียบร้อยแล้วจะต้องนำหลักสูตรที่สร้างขึ้นใหม่เขียนตามแบบฟอร์มที่กระทรวงศึกษากำหนด แล้วเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับขั้นเพื่อขออนุมัติใช้หลักสูตร โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้ประกาศใช้หรือเผยแพร่การใช้หลักสูตร
ขั้นที่11 นำหลักสูตรไปใช้ ขณะรอการอนุมัตอใช้หลักสูตรคณะทำงานจะต้องทำการวางแผนใช้หลักสูตรโดยเตรียมการอบรมครูเกี่ยวกับวิธีการใช้หลักสูตร โดยควรจัดในรูปการประชุมเชิงปฏิบัติการ และเมื่อการประชุมสิ้นสุดลงแล้ว ผู้บริหารหรือผู้ได้รับมอบหมายจะต้องนิเทศติดตามผลของการใช้หลักสูตรของครูด้วย เพื่อให้การสอนเป็นไปตามจุดประสงค์ของหลักสูตร
ขั้นที่12 ประเมินผลหลักสูตร หลังจากครูนำหลักสูตรไปใช้ในโรงเรียนระยะหนึ่งแล้ว โรงเรียนควรจัดให้มีการพิจารณาถึงคุณค่าของหลักสูตรว่าเป็นอย่างไร ให้ผลตรงตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนใด หรือควรจะยกเลิกไป

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

แผนการสอนสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 my school day

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1  My school day
รายวิชา อ13101
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 6 ชั่วโมง
ผู้สอน ............................................  โรงเรียน ........................................
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี

        มาตรฐาน ต 1.1  เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น                  อย่างมีเหตุผล
                1. ปฏิบัติตามคำสั่ง และคำขอร้องที่ฟังหรืออ่าน
                2. อ่านออกเสียงคำ  สะกดคำ  อ่านกลุ่มคำ ประโยค และบทพูดเข้าจังหวะ (chant) ง่ายๆ
    ถูกต้องตามหลักการอ่าน
        มาตรฐาน ต 1.2  มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
                1. พูดโต้ตอบด้วยคำสั้นๆ  ง่ายๆ  ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง
                2. ใช้คำสั่งและคำขอร้องง่ายๆ  ตามแบบที่ฟัง 
                3. บอกความต้องการง่ายๆ  ของตนเองตามแบบที่ฟัง
                4. พูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ  เกี่ยวกับตนเองและเพื่อนตามแบบที่ฟัง
        มาตรฐาน ต 1.3  นำเสนอข้อมูลข่าวสาร  ความคิดรวบยอด  และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ  โดยการพูดและการเขียน
                1. พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว
        มาตรฐาน ต 2.1  เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา  และนำไปใช้ได้                  อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
                1. พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
                3. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย
        มาตรฐาน ต 2.2  เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา  กับภาษาและวัฒนธรรมไทย  และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
                1. บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
        มาตรฐาน ต 3.1  ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น  และ                         เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้  และเปิดโลกทัศน์ของตน
                1. บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
        มาตรฐาน ต 4.1  ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ  ทั้งในสถานศึกษา  ชุมชน  และสังคม
                1. ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ  ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

2. สาระสำคัญ

                การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
3. สาระการเรียนรู้
        ความรู้
               คำศัพท์:                 คำศัพท์จากหน่วยการเรียนรู้ที่ 1
               โครงสร้าง:           โครงสร้างประโยคจากหน่วยการเรียนรู้ที่ 1
        ทักษะ/กระบวนการ
                ฟัง พูด อ่าน และเขียนเกี่ยวกับการบอกเวลา กิจวัตรประจำวัน และประเทศ
              อ่านข้อความสั้นๆ และปฏิบัติตามคำสั่ง
                ฟังและอ่านเรื่องสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ
                เขียนบรรยายจากเรื่องสั้นๆ ที่อ่าน
                ฟังและพูดเพื่อความเข้าใจ
                ร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
                ปฏิบัติตามคำสั่ง
        คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
             มุ่งมั่นในการทำงาน
                มีวินัย
4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

        4.1  การร้องเพลง  Get  up,  get  up!
        4.2  ผลงานการทำ  Spelling  board
        4.3  การอ่านเรื่อง  A  new  school
        4.4  ผลงานโปสเตอร์เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน
        4.5  การพูดบอกเวลา  กิจวัตรประจำวัน  และประเทศ
5. การประเมินผล

        5.1 การประเมินระหว่างการเรียนรู้
                5.1.1  สังเกตการออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์
                5.1.2  สังเกตการทำกิจกรรม
                5.1.3  ตรวจการทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด Zoom ป. 3
        5.2 การประเมินหลังเรียน
                5.2.1  การพูดบอกเวลา  กิจวัตรประจำวัน  และประเทศ
                5.2.2  การทำแบบทดสอบประจำหน่วย
        5.3 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
                5.3.1  ประเมินการร้องเพลง  Get  up,  get  up!
                5.3.2  ประเมินผลงานการทำ  Spelling  board
                5.3.3  ประเมินการอ่านและตอบคำถามเรื่อง  A  new  school!
                5.3.4 ประเมินผลงานโปสเตอร์เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน
                5.3.5 ประเมินการพูดบอกเวลา  กิจวัตรประจำวัน  และประเทศ
        5.4 การประเมินตนเอง
                ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมของตนเอง โดยการทำแบบประเมิน I can … ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 73 Unit 1
6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
        6.1 หนังสือเรียน Zoom ป. 3
        6.2 หนังสือแบบฝึกหัด Zoom ป. 3
        6.3 Class Audio CD Zoom ป.3
        6.4 หนังสือเสริมการอ่าน Reader Zoom ป.3
        6.5 นาฬิกาแขวน
        6.6 อุปกรณ์สำหรับทำ Spelling board
        6.7 อุปกรณ์สำหรับทำโปสเตอร์
        6.8 อุปกรณ์ในการเล่นเกม Street Game
       
7. กิจกรรมการเรียนรู้


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Vocabulary) เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1. พูดและบอกความหมายคำศัพท์ใหม่ได้
                2. ร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบได้
                3. พูดประโยคเกี่ยวกับชีวิตประจำวันและบอกเวลาได้
                4. นำความรู้ที่เรียนมาใช้กับวิชาอื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
                   คำศัพท์:               Spain,  Britain,  Morocco,  Argentina,  get  up,  get  dressed,  go  home/to  school,  have  breakfast/lunch,  in the  morning,  o’clock,  half  past,  countries,  start
                   โครงสร้าง:        What  time  is  it?,  there  is/are
                ทักษะ/กระบวนการ
                     ฟังและพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันและบอกเวลา
                     อ่านออกเสียงคำศัพท์ที่กำหนด
                     ร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                     มีวินัย
                     มุ่งมั่นในการทำงาน
4. กิจกรรมการเรียนรู้


ó การนำเข้าสู่บทเรียน
                      1.    ครูเขียนคำศัพท์ต่อไปนี้บนกระดาน  trousers,  apple,  brown,  red,  skirt,  shirt,  twelve,  sandwich,  blue,  hamburger  ให้นักเรียนจัดหมวดหมู่คำหล่านี้
                     2.     แบ่งนักเรียนออกเป็น  2  กลุ่ม  ให้นับเลข  1-20  โดยกลุ่มแรกนับเลขคู่  อีกกลุ่มให้นับเลขคี่  โดยให้นับสลับกันไป
                      3.    ครูให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  4  ข้อ 1 และถามว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร  และสถานที่ใด  จากนั้นให้นักเรียนดูป้าย  The  International  School  แล้วครูอธิบายความหมายของคำนี้ว่าคือ  โรงเรียนนานาชาติ  ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนจากหลายประเทศมาเรียนด้วยกัน
                      4.    ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ  ในภาพ  เพื่อทบทวนคำศัพท์  เช่น  What’s  this?  A  boy  or  a  girl?  Is  this  a  blue  ball?  How  many  chairs  are  there?  เป็นต้น
                      5.    นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  4 ข้อ  1  แล้วให้เขียนคำศัพท์ที่ตนเองทราบลงสมุด  จากนั้นนำคำศัพท์มาเปรียบเทียบกับเพื่อนในชั้นเรียน
                      6.    ครูสุ่มเลือกนักเรียนออกมาเขียนคำศัพท์ที่ตนเองทราบบนกระดาน  เสร็จแล้วให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์บนกระดานพร้อมกัน
                      7.    ครูเขียนคำต่อไปนี้บนกระดาน  food,  numbers,  colour  ให้นักเรียนบอกคำศัพท์ในรูปภาพที่อยู่ในกลุ่มคำที่ครูเขียน
                        8.    ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  4 ข้อ  1  เติมคำศัพท์ที่กำหนดให้ลงในรูปภาพให้ถูกต้อง
9.    ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า  4  แล้วอ่านออกเสียง สะกด  และบอกความหมายคำศัพท์ทั้ง 4  คำ ในข้อ 2 พร้อมกัน
10. ครูชี้ที่รูป  Zed ในหนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 2 และถามว่า  What’s  Zed  doing?  (She’s  eating  an  apple.)
                11. นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 2   ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  4  โดยครูเปิด  CD[11] ให้นักเรียนฟัง  2  ครั้ง  ครั้งแรกให้นักเรียนชี้ภาพในข้อ  1  ตามที่ได้ยิน  ครั้งที่  2  ให้นักเรียนระบายสีตามคำสั่งใน  CD
          ² CD[11] 
Colour Spain red.                              Colour Argentina blue.
Colour Morocco yellow.                                 Colour Britain green.
Colour the ball black and pink.     Colour the computers grey.
Colour the bed orange.
ó การนำเสนอ
                        1.    ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า  5 ข้อ  3  ครูอ่านคำสั่ง  Listen,  point  and  say.  ให้นักเรียนทำท่าทาง เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจคำสั่งหรือไม่
        2.    ครูเปิด CD[7]  ให้นักเรียนฟัง และชี้ภาพคำศัพท์ในหนังสือเรียน หน้า 5 ข้อ  3  ตามที่ได้ยิน
² CD[7]   
Morocco.              Spain.                    Britain.                                 Argentina.
Get up.                  Get dressed.         Go home.             Go to school.
Have breakfast. Have lunch.
                 
3.    ครูเปิด  CD[7]  ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง  แล้วหยุดเป็นช่วงๆ  เพื่อให้นักเรียนอ่านตาม
4.    นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  5  ข้อ  3  โดยครูเปิด  CD[12]  ให้นักเรียนฟัง  แล้วโยงเส้นจับคู่กิจวัตรประจำวันกับเวลา
² CD[12]   
I get up at eight o’clock.                 I get dressed at half past eight.
I go to school at nine o’clock.       I have lunch at half past one.
I go home at half past four.

ó การฝึก
                        1.    ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมข้อ 3 หัวข้อ Now listen and find. ในหนังสือเรียน หน้า 5 โดยให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  4  ข้อ 1  แล้วครูเปิด  CD[8]  ให้นักเรียนฟัง  จากนั้นสุ่มเลือกนักเรียนให้ชี้ภาพที่ตรงกับที่นักเรียนได้ยิน
² CD[8]   
Spain.                    Go home.             Argentina.            Get up.
Britain.                                 Go to school.      Have lunch.         Get dressed.
Have breakfast.   Morocco.

                        2.    ครูชี้ภาพในหนังสือเรียน หน้า  4  ทีละภาพ  และถาม  What’s  this?  ให้นักเรียนช่วยกันตอบ
                        3.    ครูให้นักเรียนจัดกลุ่มคำศัพท์ในหนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 3 เป็น  2  กลุ่ม  คือชื่อประเทศ  และกิจวัตรประจำวัน  (countries  and  everyday  activities)  โดยครูเขียนหัวข้อบนกระดาน  แล้วสุ่มเรียกนักเรียน ออกมาเขียนคำศัพท์ คนละ 1 คำ จนครบ
ó การนำไปใช้
                      1.    ครูให้นักเรียนอ่านเนื้อเพลง  Get  up,  get  up!  ในหนังสือเรียน หน้า  5  ข้อ  4  แล้วครูหมุนเข็มนาฬิกาแสดงช่วงเวลาต่างๆ  และทำท่ากิจวัตรประจำวัน  เช่น  เวลา  7.00  น.  ทำท่าตื่นนอน
                      2.    ครูเปิด CD[9]  ให้นักเรียนฟังเพลง Get up, get up! 2-3  ครั้ง  โดยให้นักเรียนชี้เนื้อเพลง  และร้องเพลงตามไปด้วย
                        3.    ครูให้นักเรียนฝึกร้องเพลงจนคล่อง  จากนั้นให้ฝึกร้องเพลงจากทำนองคาราโอเกะใน CD[10]  ครูอธิบายว่า  ท่อนที่มีเฉพาะเสียงดนตรีคือ  ท่อนที่นักเรียนต้องร้องในทำนองคาราโอเกะ
² CD[9]  และ  [10]
Get up, get up!
I get up at seven o’clock,
seven o’clock in the morning.
I get dressed at half past seven,
half past seven in the morning.
I have breakfast at eight o’clock,
eight o’clock in the morning.
I go to school at half past eight,
half past eight in the morning.
School starts at nine o’clock,
nine o’clock in the morning.

                      4.    นักเรียนประเมินตนเองในการร้องเพลง Get  up,  get  up!  ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 73 หัวข้อ I can โดยระบายสี  Zed  ตามระดับความสามารถของตนเอง
                        5.    นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  5  ข้อ  4  โดยให้นักเรียนอ่านเวลาที่กำหนดให้ในแต่ละข้อ แล้วเติมกิจกรรมในแต่ละช่วงเวลาให้เหมาะสม  เสร็จแล้วให้นักเรียน  5 คน  อาสาพูดเฉลยคำตอบ

                                               
1  get up               2  get dressed                      3  have breakfast
                                                4  go to school    5  have lunch


5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
- สังเกตการออกเสียงคำศัพท์
- สังเกตการทำกิจกรรม
แบบประเมินทักษะทางภาษา
แบบสังเกตการทำกิจกรรม

ร้อยละ 80-100  ดีมาก
ร้อยละ 70-79    ดี
ร้อยละ 60-69    พอใช้
ร้อยละ 50-59    ควรปรับปรุง



6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

                     1. หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
                     2. หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
                   3. Class Audio CD Zoom .3
                   4.  นาฬิกาแขวน











แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Let’s practise) เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1. พูดคำศัพท์และประโยคใหม่ได้
                2. บอกเวลาและสนทนาเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันได้
                3. ฟังและพูดเกี่ยวกับประเทศตามโครงสร้างที่กำหนดได้
                4. บูรณาการภาษาอังกฤษกับวิชาอื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
                    คำศัพท์:         get  up / dressed,  have  breakfast / lunch,  go  to  school / home,  Spain,  Argentina,  Britain
                   โครงสร้าง:    Where  are  you  from?  I’m  from  …,  What  time  is  it?,  It’s  ….
                ทักษะ/กระบวนการ
                     ฟังและพูดบอกเวลาและกิจวัตรประจำวัน
                   ฟังและพูดเกี่ยวกับประเทศ
                     ปฏิบัติตามคำสั่ง
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                      มีวินัย
                      มุ่งมั่นในการทำงาน




4. กิจกรรมการเรียนรู้

ó การนำเข้าสู่บทเรียน
                      ให้นักเรียนเขียนวลีเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันที่นักเรียนได้เรียนมาแล้ว จำนวน  3  วลี  ลงในกระดาษ  จากนั้นครูบอกวลีเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันที่อยู่ในหนังสือเรียน หน้า  5    ถ้าวลีที่ครูบอกตรงกับวลีนักเรียนเขียนไว้ในกระดาษ  ให้นักเรียนกากบาทวลีนั้น  นักเรียนคนใดที่กากบาทวลีได้ครบ 3  วลี ก่อนเป็นผู้ชนะ
ó การนำเสนอ
                      1.    ให้นักเรียนดูนาฬิกาแขวน  โดยครูหมุนเข็มสั้นที่เลข  8  และเข็มยาวที่เลข  12  แล้วถามว่า  What  time  is  it?  ครูพูดตอบว่า It’s  eight  o’clock. เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับนักเรียน ต่อจากนั้นครูหมุนเข็มสั้นที่เลข  2  เข็มยาวที่เลข  12  และถามคำถาม เพื่อให้นักเรียนตอบ
                                                 T:   What  time  is  it?
                                                Ss:   It’s  two  o’clock.     
                     2.    ครูหมุนเข็มสั้นกึ่งกลางระหว่างเลข  8  และเลข  9  เข็มยาวที่เลข  6  และถาม  What  time  is  it?  พร้อมกับตอบ  It’s  half  past  eight.  ให้นักเรียนพูดตาม  ต่อจากนั้นครูหมุนเข็มสั้นระหว่างเลข  3  และ  เลข  4  เข็มยาวอยู่ที่เลข  6  และถาม
                                                  T:   What  time  is  it?
                                                Ss:   It’s  half  past  three.     
                     3.    ให้นักเรียนดูคำศัพท์ที่อยู่ส่วนบนสุดของหนังสือเรียน หน้า  6-7  และเปิด CD[13]  ให้นักเรียนฟัง  โดยให้นักเรียนชี้ภาพ พร้อมกับฝึกออกเสียงคำศัพท์ตามที่ได้ยิน
² CD[13]     
Eight o’clock.                     Half  past seven.                Get dressed.
Go home.                             Have breakfast.                  Get up.
Go to school.                      Have lunch.
               
                     4.    ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  4  ข้อ  1  ครูถามเกี่ยวกับตารางเวลาของตัวละคร แต่ละตัวที่เห็นในภาพ เช่น 
 T:          What  time  does  Steve  get  up?                 Ss:   Seven  o’clock. 
                                 T:  What time does Sonia have breakfast?                Ss:   Eight o’clock.
                             T:     What time does Ana play basketball?         Ss:   Half  past ten.
                     5.    ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  6  ข้อ  5  แล้วครูเปิด  CD[14]  ให้นักเรียนฟัง  ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะพูดบรรยายลักษณะของตัวเอง ครูให้นักเรียนชี้ไปที่ตัวละครขณะที่ฟัง CD

² CD[14] 
Hi, I’m Zed. I can fly.
My name’s Steve. I’ve got blond hair and blue eyes. I’m from Britain.
And I’m Rashid. I’m from Morocco. I like football but I don’t like basketball.
I’m 8 years old. I’m Ana. I like basketball and I’m from Spain.
I’m from Argentina. I’ve got brown eyes and black hair. My name’s Sonia.

                             เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว  ครูสุ่มเรียกนักเรียนพูดประโยคบรรยายตัวละครแต่ละตัวอีกครั้งหนึ่ง
                     6.    ครูให้นักเรียนเขียนหมายเลข  1-5  ลงในสมุด  โดยครูพูดว่า  Now  listen  and  say.  และเปิด  CD[15]  ให้นักเรียนฟังคำบรรยายตัวละครแต่ละตัว  แล้วให้นักเรียนระบุว่าคำบรรยายที่นักเรียนได้ยินนั้น เป็นตัวละครตัวใด โดยให้นักเรียนเขียนชื่อตัวละครหลังตัวเลขในสมุดตามลำดับที่ได้ยินจาก CD เสร็จแล้วให้ช่วยกันตรวจคำตอบ  โดยครูถาม  Who  is  number  1? เช่น
                                T:    Who is number 1?                                     S1:  Steve.          
                                T:    Who is number 2?                                     S2:  Zed                .
                                T:    Who is number 3?                                     S3:  Rashid.        
                                T:    Who is number 4?                                     S4:  Sonia.
                                T:    Who is number 5?                                     S5:  Ana
² CD[15] 
I’m from Britain. What’s my name?
I can fly. What’s my name?
I like football. What’s my name?
I’m from Argentina. What’s my name?
I like basketball. What’s my name?

                     7.    ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  6  ข้อ  5  ครูชี้ไปที่ตัวละครทีละตัว  แล้วถามคำถามนักเรียน  ดังนี้
                                T:   Who’s  from  Spain?                                                Ss:   Ana  is  from  Spain.
                     ครูดำเนินกิจกรรมนี้จนครบทุกตัวละคร  จากนั้นให้นักเรียนเติมคำลงในประโยคให้สมบูรณ์    ครูตรวจคำตอบโดยสมมติให้นักเรียนเป็นตัวละคร  แล้วฝึกพูดประโยคถามและตอบกับครู  เช่น
                                T:   Number  1.  What’s  your  name?        Ss:   I’m  Sonia.
                                T:   Where  are  you  from?                           Ss:   I  am  from  Argentina.
                               
1  Argentina                        2 I’m, Morocco                  3  My, from, Spain
                                4  My name’s, I’m from Britain.
               
ó การฝึก
                     1.     ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  6  ข้อ  6  จากนั้นครูเปิด  CD[16]  ซึ่งเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของ  Steve  ให้นักเรียนฟัง  ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าภาพบางภาพจะไม่ตรงกับข้อความที่ฟัง  ดังนั้นถ้าภาพใดตรงกับข้อมูลที่ได้ยินจาก  CD  ให้ใส่เครื่องหมาย  ü  แต่ถ้าภาพใดไม่ตรงกับข้อมูลที่ได้ยินให้ใส่เครื่องหมาย  Ï


² CD[16] 
I get up at seven o’clock in the morning. I get dressed
at half past seven. I have breakfast at eight o’clock.
I have lunch at half past twelve. Pizza is my favourite.
I go home at three o’clock.

                     2.     ครูให้นักเรียนเขียนหมายเลข  1-5  ลงในสมุด  และเขียนเครื่องหมาย üหรือÏ ตามลำดับที่ฟัง  เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ
                               
                                                1  ü     2 ü       3 Ï      4 ü       5 Ï

                    3.     นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด  หน้า  6  ข้อ  6  โดยดูรูปนาฬิกาและเขียนบอกเวลา จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ถามและตอบเกี่ยวกับเวลาในภาพ  เช่น
                                S1:   What  time  is  it?                    S2:   It’s  one  o’clock.

                                                2  half past ten                    3  half past three                                4 ten o’clock
                                                5  half past seven               6  six o’clock

                     4.     นักเรียนอ่านประโยคที่กำหนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า  7  ข้อ 7 ในใจ  แล้วชี้ไปที่นาฬิกาตามเวลาที่ระบุในแต่ละประโยค  (ภาพ  E-H)  จากนั้นสุ่มเรียกนักเรียน  4  คน  อ่านออกเสียงทีละประโยคให้เพื่อนๆ  ที่เหลือชี้นาฬิกา       
                     5.     ครูขออาสาสมัคร  2  คน  อ่านประโยค ในหนังสือเรียน หน้า  7  ข้อ 7   และให้นักเรียน                ที่เหลือฝึกอ่านตาม จากนั้นครูให้นักเรียนในชั้นช่วยกันระบุว่าประโยคที่อ่าน ตรงกับภาพ A-D ภาพใด  เสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่กัน เพื่อฝึกอ่านอีกครั้ง
                               
                                                I get dressed at eight o’clock.                          =          ภาพ C
                                                I have breakfast at half past eight.                                  =          ภาพ B
                                                I go to school at nine o’clock.                         =           ภาพ D
                                                On Monday I play football at half past five. =         ภาพ A
                               
                     6.     ครูให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องที่กำหนดให้ ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  7  ข้อ 7 เมื่ออ่านจบแล้ว ให้นักเรียนเรียงภาพตามลำดับเนื้อเรื่อง  โดยใส่ตัวเลขในวงกลม   
                               
                                                                2, 5, 3, 1, 4

ó การนำไปใช้
                     1.     ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า  7  ข้อ  8  ครูชี้ที่ตัวละครและถามนักเรียนว่า  Who’s  this? (Sonia) ให้นักเรียนช่วยกันตอบ  แล้วครูเปิด  CD[17]  ให้นักเรียนฟังและอ่านข้อความตามไปด้วย
                               
² CD[17] 
What’s your name?                           My name’s Sonia.
Where are you from?                        I’m from Argentina.
How old are you?                              I’m eight.

                     2.     เมื่อนักเรียนฟังจบแล้ว  ให้จับคู่กันถามตอบ  ให้นักเรียนคนแรกเป็นผู้ถาม และนักเรียน               คนที่  2  เป็นผู้ตอบ  จากนั้นสลับบทบาทกันจนสามารถพูดได้คล่อง
                     3.     ให้นักเรียนอ่านคำสั่ง  Now  listen  and  answer. ในหนังสือเรียน หน้า 7  ข้อ 8 จากนั้นครูเปิด  CD[18]  ให้นักเรียนฟังและตอบคำถามโดยใช้ข้อมูลของตนเอง

² CD[18] 
What’s your name?                           Where are you from?
How old are you?
               
     4.     แบ่งนักเรียนออกเป็น  4  กลุ่ม  แล้วครูเปิด CD[18]  ให้นักเรียนฟัง 1  ครั้ง  ให้สมาชิกใน แต่ละกลุ่ม จับคู่ผลัดกันถามตอบ
                   5.   นักเรียนดูภาพในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  9 ข้อ 8 ครูถามคำถามต่อไปนี้  What’s  her  name?  How old is she? Where’s  she  from?  What does she like? What colour of hair have she got? โดยให้นักเรียนใช้ข้อมูลจากรูปภาพในการตอบ  เมื่อนักเรียนตอบคำถามเสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วครูสุ่มเลือกนักเรียนอ่านคำตอบของตนเอง
                                                1  My name’s is Ana.                       2  I’m eight.
                                                3  I like basketball.                            4  I’m from Spain.
                                                5  I’ve got brown hair.


5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
-  สังเกตการอ่านและการตอบ
   คำถาม
-  สังเกตการฟังและพูดตาม
   หัวข้อที่กำหนด
-  แบบประเมินทักษะทางภาษา
   
-  แบบประเมินทักษะทางภาษา

ร้อยละ 80-100 ดีมาก
ร้อยละ 70-79 ดี
ร้อยละ 60-69 พอใช้
ร้อยละ 50-59 ควรปรับปรุง


6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

                     1. หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
                     2. หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
                   3. Class Audio CD Zoom .3
                   4.  นาฬิกาแขวน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Make and learn) เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1. อ่านออกเสียงตัวอักษร  และสะกดคำที่กำหนดได้
                2. สร้างอุปกรณ์การเรียนที่ช่วยในการสะกดคำได้
                4. นำความรู้ที่เรียนมาใช้กับวิชาอื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
                    คำศัพท์:          cut,  fold,  envelope,  letters
                   โครงสร้าง:      What’s  this?  Spell  it,  please.
                ทักษะ/กระบวนการ
                     อ่านข้อความสั้นๆ และปฏิบัติตามคำสั่ง
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                     มุ่งมั่นในการทำงาน
     ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
4. กิจกรรมการเรียนรู้

ó การนำเข้าสู่บทเรียน
                     1.     ให้นักเรียนร้องเพลง  Get  up,  get  up!
                     2.     ทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว  โดยครูสะกดคำศัพท์  แล้วให้นักเรียนเขียนตัวอักษรของคำนั้น  พร้อมกับอ่านออกเสียงและบอกความหมาย
                     3.      ทบทวนการบอกเวลา  โดยครูให้นักเรียนดูเวลาบนนาฬิกาแขวนและถามว่า  What  time  is  it?  หรือถ้าในชั้นเรียนไม่มีนาฬิกาแขวน ครูอาจวาดรูปหน้าปัดนาฬิกา 2-3 รูป แล้วถามนักเรียน
ó ขั้นนำเสนอ
                      1.    ครูนำตัวอย่าง  Spelling  board  ที่ทำเสร็จแล้วมาให้นักเรียนดู 
                     2.    ครูอ่านวิธีทำ Spelling board ในหนังสือเรียน หน้า  8  ข้อ  9  ให้นักเรียนฟังและอ่านตาม พร้อมกับดูภาพประกอบตามไปด้วย
                     3.    ครูชี้ไปที่รูปกรรไกร (scissors) และซองจดหมาย (envelope) ที่อยู่ด้านบนของหนังสือเรียน หน้า 8  พร้อมกับพูดคำศัพท์ แล้วให้นักเรียนพูดตาม ครูอธิบายว่า  กรรไกรและซองจดหมายเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำ  Spelling  board 
ó ขั้นปฏิบัติ
                     1.     นักเรียนเปิดหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  65  ตัดตัวอักษรออกจากกัน แล้วเก็บตัวอักษรใส่ซองจดหมาย
                     2.     ให้นักเรียนพับกระดาษแข็งที่เตรียมไว้เป็นรูปตัว  Z  เพื่อทำเป็นถาดใส่ตัวอักษรในขณะเล่นเกม (Spelling board)
ó ขั้นนำไปใช้
                     1.     ครูหยิบดินสอขึ้นมา  1  แท่ง  แล้วถามนักเรียนว่า  What’s  this?  Spell  it,  please.  ให้นักเรียนนำตัวอักษรที่ตัดไว้มาสะกดเป็นคำว่า  PENCIL  โดยเรียงไว้บน  Spelling  board  เสร็จแล้วให้                     ออกเสียงพร้อมกัน  หรือครูสุ่มเรียกนักเรียน  1  คน  ให้ออกเสียงก็ได้
                     2.     ครูนำสิ่งของมาถามนักเรียนอีกหลายๆ  ครั้ง  เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจหรือไม่
                     3.     ครูให้นักเรียนทั้งชั้นฝึกสะกดคำศัพท์ โดยใช้ภาพจากหนังสือเรียน หน้า  2  ข้อ 1  จากนั้นให้นักเรียนจับคู่กันทำกิจกรรม
                     4.     ครูให้นักเรียนเขียนชื่อของตนเองบนซองจดหมาย  แล้วนำไปใส่ไว้ในแฟ้มสะสมผลงาน
                     5.     เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว  ครูให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ทั้งหมดที่สะกดไว้ลงในสมุด
                     6.     ครูให้นักเรียนประเมินการทำกิจกรรมของตนเอง ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  73  หัวข้อ             I  can  …(Play  with  my  spelling  board.)   โดยระบายสีรูป  Zed  ตามระดับความสามารถของตนเอง 

5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
- สังเกตการออกเสียงและสะกดคำศัพท์
- สังเกตการทำกิจกรรม
แบบประเมินทักษะทางภาษา

แบบสังเกตการทำกิจกรรม
ร้อยละ 80-100  ดีมาก
ร้อยละ 70-79    ดี
ร้อยละ 60-69   พอใช้
ร้อยละ 50-59   ควรปรับปรุง


6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

                     1.     หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
                     2.       หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
                   3.   Class Audio CD Zoom .3
                   4.   อุปกรณ์สำหรับทำ Spelling board เช่น กรรไกร ซองจดหมาย กระดาษแข็ง


























แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Time to read) เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การอ่านเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1.   อ่านออกเสียง  และบอกความหมายคำศัพท์ตามที่กำหนดได้
                2.   ฟังและอ่านเรื่องสั้นๆ และตอบคำถามได้
                3.   แสดงบทบาทสมมติ
                4.   ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
                    คำศัพท์:                          computer  room,  new  school,  biscuits,  ice  cream
                   โครงสร้าง:                      What  time  is  it?,  What’s  your  name?
                ทักษะ/กระบวนการ
                     ฟังและอ่านเรื่องสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ
                      ปฏิบัติตามคำสั่ง
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                     มุ่งมั่นในการทำงาน
     มีวินัย






4. กิจกรรมการเรียนรู้

ó ขั้นก่อนอ่าน
                      1.    ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า  4-5  และพูดเข้าสู่บทเรียนว่า  At  the  International  school  all  the  children  speak  English  with  each  other.  Today we have a story about the  International  school.  In  the  story,  today  is  the  first  day  of  school.  What day is your first day of school?  September  15th?  แล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปความหมาย
                     2.     ครูให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า  9  และทบทวนคำศัพท์ในแต่ละภาพ  โดยใช้  Framer  (ครูถ่ายเอกสารจากท้ายแผนฯนี้) ช่วยค้นหาคำศัพท์
ó ขั้นระหว่างอ่าน
                      1.    ครูให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง A new school! ในหนังสือเรียน หน้า 9 ข้อ 10 ในใจ  เสร็จแล้วครูชี้ที่ภาพ  แล้วสนทนาเกี่ยวกับตัวละครในภาพ  เช่น   It’s  Paul’s  first  day  at  school.  Is  he  happy?  What  do  you  think?  Does  Paul  have  friends?    
                     2.    ครูให้นักเรียนฟังเนื้อเรื่องจาก  CD[19]  หลายๆ ครั้ง  โดยครูหยุด  CD  เมื่อจบเนื้อเรื่องในแต่ละกรอบ ครูถามนักเรียนว่าเนื้อเรื่องในแต่ละกรอบ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ด้วยคำถาม  What’s  this  frame  about?  แล้วให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
² CD[19] 
It’s  Paul’s  first  day  at  his  new  school.  He’s  nervous.
Rashid:    Hello.  I’m  Rashid.  What’s  your  name?
    Paul:     My  name’s  Paul.  I’m  from  the  USA.
Rashid:    Come  and  see  the  school.  This  is  the  computer  room.
                    Do  you  like  computer?
    Paul:     Yeah!  Cool!  What  time  is  break?
Rashid:               At  11  o’clock,  but  you  can’t  have  biscuits  or  ice  cream.
    Paul:     What?  No  biscuits  or  ice  cream?
Rashid:    No,  only  apples  and  oranges.  Don’t  worry.  We  can  share.
 
                     3.    ครูให้นักเรียนบอกคำศัพท์ที่นักเรียนจำได้ในแต่ละภาพอีกครั้ง และถามครูถึงคำศัพท์ที่ยังไม่ทราบความหมาย  จากนั้นครูเขียนคำศัพท์ใหม่ที่นักเรียนควรรู้บนกระดาน  แล้วให้นักเรียนออกเสียง  สะกด  และบอกความหมายพร้อมกัน
                        4.    ครูอธิบายว่า yeah  และ  cool  เป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน  ซึ่งการออกเสียงคำศัพท์และโครงสร้างประโยคจะแตกต่างจากภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ  แล้วครูสอนนักเรียนออกเสียงคำศัพท์แบบอเมริกัน
ó ขั้นหลังอ่าน
                        1.    เมื่ออ่านเนื้อเรื่องจบแล้ว  ครูถามคำถามนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อตรวจสอบ              ความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้คำถามที่เคยถามนักเรียนไปแล้วเมื่อต้นชั่วโมง เช่น
                                T:  Is Paul happy?                             Ss:   No, nervous.
                                T:  Does he have friends?                Ss:   Yes, Rashid. 
2.    ครูเปิด CD[19]  อีกครั้ง ให้นักเรียนฟังและอ่านเนื้อเรื่องตาม  ขณะที่ฟังเมื่อได้ยินคำศัพท์ที่ครูเขียนไว้บนกระดาน ให้นักเรียนยกมือขึ้น
3.    เมื่อฟังเนื้อเรื่องจบแล้ว  ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนคำศัพท์ที่จำได้  ในเวลา  2  นาที  โดยปิดหนังสือเรียน  เสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มนำคำศัพท์ที่เขียนไปเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นๆ  แล้วส่งตัวแทนมาเขียนคำศัพท์บนกระดาน
4.    ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดทบทวนเรื่องที่อ่าน ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 8 ข้อ 9 โดยเรียงลำดับรูปภาพที่ให้มา ให้ถูกต้องตามลำดับเหตุการณ์ที่อ่านในเนื้อเรื่อง
                               
                                                3, 2, 1

                        5.    ครูให้นักเรียนอ่านประโยคที่กำหนดให้ ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  8  ข้อ 10 แล้วเขียน  ตอบว่าแต่ละประโยคเป็นจริง (True)  หรือเป็นเท็จ (False)  ตามเนื้อเรื่องที่ได้อ่าน
                                                2  false                  3  true                    4  false                  5  false                  6  true

6.    ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น  4  กลุ่ม  เพื่อแสดงบทบาทสมมติ  โดยให้แต่ละกลุ่มผลัดกันออกมาแสดงท่าทางประกอบในขณะที่ฟัง  CD[19]  จากนั้นครูเปลี่ยนเป็นให้นักเรียนในชั้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอ่านบทสนทนา แล้วให้นักเรียนอีกกลุ่มแสดง
7.    ครูอ่านคำถามที่กำหนดให้ (1-4) ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 9 ข้อ 11 แล้วให้นักเรียนตอบคำถามปากเปล่า โดยสมมติว่าตนเองเป็น Rashid และ Paul จากนั้นครูให้นักเรียนเขียนคำตอบ เสร็จแล้วเฉลยคำตอบพร้อมกันอีกครั้ง
B  I’m from the USA.                      C  I’m from Morocco.
                        D  At 11 o’clock.

8.    นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  9  ข้อ 12  โดยให้นักเรียนแต่ละคนเติมคำลงในประโยคคำถามให้สมบูรณ์  จากนั้นครูให้นักเรียนสัมภาษณ์เพื่อนร่วมชั้นโดยใช้คำถามเหล่านี้ เสร็จแล้วครูให้นักเรียนตอบคำถามเหล่านี้อีกครั้งเกี่ยวกับตัวเอง โดยเขียนตอบลงสมุด
                        1  What                 2  Where               3  you                    4  like                    5  What

9.    ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านหนังสือเสริมการอ่าน Reader Zoom .3 หน้า 1-4 แล้วเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เป็นการบ้าน
10. ให้นักเรียนประเมินตนเองจากการอ่านเนื้อเรื่อง (Read  a  story.  A  new  school)   ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  73  หัวข้อ  I  can    โดยระบายสีรูป  Zed  ตามระดับความสามารถของตนเอง
               
5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
-  สังเกตการอ่านและตอบ
   คำถาม
-  สังเกตการทำกิจกรรม
-  แบบประเมินทักษะทางภาษา

-  แบบสังเกตการทำกิจกรรม
ร้อยละ 80-100 ดีมาก
ร้อยละ 70-79 ดี
ร้อยละ 60-69 พอใช้
ร้อยละ 50-59 ควรปรับปรุง



6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

1.    หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
2.    หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
3.    Class Audio CD Zoom .3
        4.            หนังสือเสริมการอ่าน Reader Zoom ป.3







แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Time to write)  เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การเขียนเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1. เขียนบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันได้
                2. พูดคำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่กำหนดได้
                3. ทำโปสเตอร์ง่ายๆ  ได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
               คำศัพท์:                 get  up,  have  lunch,  go  home,  play,  true,  false
                ทักษะ/กระบวนการ
                     เขียนบรรยายจากเรื่องสั้นๆ ที่อ่าน
                     ปฏิบัติตามคำสั่ง
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                     มุ่งมั่นในการทำงาน
     มีวินัย
4. กิจกรรมการเรียนรู้

ó การนำเข้าสู่บทเรียน
                      1.    ครูให้นักเรียนเล่นเกม  Command  Chain  โดยให้นักเรียนคนที่  1  บอกคำศัพท์ที่อยู่ในบทเรียนมา  1  คำ  แล้วนักเรียนคนที่  2  พูดทวนพร้อมกับบอกคำศัพท์ใหม่อีก  1  คำ  นักเรียนคนที่  3  พูดทวนคำศัพท์ของนักเรียนคนที่  1  และคนที่  2  พร้อมกับพูดคำศัพท์ใหม่อีก  1  คำ  เช่น 
S1:  computer 
S2:  computer,  ice  cream 
S3:  computer,  ice  cream,  biscuit              etc.
                     2.     ครูพูดคำศัพท์  get  up,  play,  school,  lunch,  football,  breakfast,  home  ให้นักเรียนสะกดคำศัพท์โดยใช้  Spelling  board 
                     3.     ครูให้นักเรียนร้องเพลง  Count  up,  count  down  จากทำนองคาราโอเกะใน  CD[2]
ó ขั้นก่อนเขียน
                      1.    นักเรียนทบทวนคำศัพท์ ด้วยการทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 10 ข้อ  13  โดยเรียงตัวอักษรที่กำหนดให้ใหม่ ให้เป็นคำศัพท์ที่มีความหมายสัมพันธ์กับภาพ
                     2.    ครูให้นักเรียนอ่านข้อความในกรอบ My School Day ในหนังสือเรียน หน้า  10  ข้อ  11 แล้วให้นักเรียนชี้ภาพที่สัมพันธ์กับแต่ละประโยคในข้อความ  เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย
                      3.    ครูอ่านประโยคที่กำหนดให้ (1-4)  แล้วถามนักเรียนว่า  Are  these  sentences  right  or  wrong?  ครูให้เวลานักเรียนในการคิดเพื่อหาคำตอบ จากนั้นครูขออาสาสมัคร  1  คน  อ่านประโยค  แล้วให้เพื่อนในชั้นบอกคำตอบว่า  right  หรือ  wrong  ครูคอยช่วยเหลือและตรวจคำตอบที่นักเรียนตอบ
ó ขั้นเขียน
                     ครูให้นักเรียนเขียนประโยคเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตนเอง
ó ขั้นหลังเขียน
                     1.     ให้นักเรียนนำประโยคที่นักเรียนเขียนติดบนกระดาษแข็งใหญ่  เพื่อทำโปสเตอร์  จากนั้นระบายสี ตกแต่งให้สวยงาม
                     2.     ครูให้นักเรียนนำภาพถ่ายของตนเองที่แสดงถึงกิจวัตรประจำวัน  ตามที่เขียนบรรยายไว้มาติดลงบนโปสเตอร์  หรืออาจวาดภาพขึ้นเองก็ได้                
                     3.     ครูให้นักเรียนแต่ละคนนำโปสเตอร์มานำเสนอหน้าชั้นเรียน และพูดอธิบายเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของตนเอง เสร็จแล้วให้นักเรียนนำโปสเตอร์ไปแขวนไว้รอบชั้นเรียน
                    4.     ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ  14  หน้า  10  ครูให้นักเรียนประเมินตนเองจากการทำกิจกรรม  โดยระบายสีลงในรูป  Zed  ตามระดับความสามารถของตนเอง  ในแบบฝึกหัด หน้า  73  หัวข้อ               I  can    (Make  a  poster  about  my  day.)
               
5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
-  สังเกตการสะกดคำศัพท์
-  สังเกตการทำกิจกรรม
-  ตรวจงานเขียน
แบบประเมินทักษะทางภาษา
แบบสังเกตการทำกิจกรรม
แบบประเมินทักษะทางภาษา
ร้อยละ 80-100  ดีมาก
ร้อยละ 70-79    ดี
ร้อยละ 60-69    พอใช้
ร้อยละ 50-59    ควรปรับปรุง


6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

                     1. หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
                     2. หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
                   3. Class Audio CD Zoom .3
                   4. อุปกรณ์ในการทำโปสเตอร์ เช่น รูปภาพ กระดาษโปสเตอร์




















แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1   เรื่อง  My  school  day (Test yourself) เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ
               
การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้มากขึ้น 
2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้

                1. ประเมินความรู้และทักษะทางภาษาของตนเองได้
                2. พัฒนาทักษะการพูดและการฟังเพื่อความเข้าใจ
                3. เล่นเกมทางภาษาด้วยความสนุกสนาน
                4. ทำแบบทดสอบประจำหน่วย  เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ได้
3. สาระการเรียนรู้
                ความรู้
                   คำศัพท์:           play  football,  go  home,  have  breakfast,  at    o’clock
                    โครงสร้าง:     Spell,  please.,  What’s  your  name?,  Where  are  you  from?, 
                                                How  old  are  you?
                ทักษะ/กระบวนการ
                     ฟังและพูดเพื่อความเข้าใจ
                     ปฏิบัติตามคำสั่ง
                คุณลักษณะที่พึงประสงค์
                     มุ่งมั่นในการทำงาน
     มีวินัย
4. กิจกรรมการเรียนรู้

ó การนำเข้าสู่บทเรียน
                      ครูถามคำถามเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน  ประเทศ  และเวลา เช่น
                                T:   What  time  do  you  have  lunch?
                                 Ss:   I  have  lunch  at  twelve  o’clock.
                                  T:   Where  are  you  from?
                                 Ss:   I’m  from  … .                                       etc

ó ขั้นนำเสนอ
                    1.       ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า วันนี้นักเรียนจะได้เล่นเกม ที่ชื่อว่า  Street  game ซึ่งอยู่ในหนังสือเรียน หน้า 11 ข้อ 13
    2.       ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมให้นักเรียนฟังว่า ให้นักเรียนโยนลูกเต๋า  แล้วเดินตามจำนวนแต้มที่ปรากฏบนลูกเต๋า  (1  แต้มต่อ  1  ช่อง)  เมื่อเดินไปหยุดที่ช่องใดให้นักเรียนทำกิจกรรมตามที่ระบุไว้ในช่องนั้น  ซึ่งอาจเป็นการทำตามคำสั่ง  ตอบคำถาม  หรือเติมคำในประโยคให้สมบูรณ์  หากนักเรียนตอบไม่ได้จะต้องหยุดเล่น  1  ครั้ง   ผู้ที่สามารถเดินไปถึงช่องสุดท้ายได้ก่อน  คือผู้ชนะ
ó ขั้นปฏิบัติ
                     ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า  11  ข้อ  13  แล้วแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน เพื่อเล่นเกม Street game ตามวิธีการเล่นที่ครูได้อธิบายไว้แล้ว
ó ขั้นติดตามผล
                   1.   นักเรียนทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 11 ข้อ 15  โดยเติมข้อมูลของตนเองลงในช่องที่กำหนดให้ แล้ววาดรูปประกอบ เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-5 คน ให้ออกมาอ่านคำตอบและแสดงผลงานของตนเอง
                        2.     นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า 11 ข้อ 16 โดยดูรูปภาพ แล้วเลือกวงกลมคำตอบที่ถูกต้อง จากนั้นครูเปิด CD[20] เพื่อให้นักเรียนตรวจคำตอบ แล้วให้นักเรียนระบายสีนาฬิกาด้านล่างตามจำนวนข้อที่นักเรียนตอบถูก
CD[20]
1  It’s half past ten.                                           2  At nine o’clock I go to school.
3  I’m seven.                                                       4  I’m from Spain.
5  At half past eight I eat breakfast.             6  On Saturdays I play computer games.

                     3.     นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า  11  ข้อ 14 ครูอ่านประโยค  Now  I  can  talk  about    (my  day,  the  time,  countries)  ให้นักเรียนฟังและให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย
                     4.     ครูเดินรอบๆ  ชั้นเรียน  แล้วเลือกสอบถามนักเรียนทีละคนเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง  เช่น                        T:   Can  you  talk  about  countries?
                                S:   Spain,  Britain 
                              ครูดำเนินกิจกรรมนี้กับนักเรียนคนอื่น ในหัวข้ออื่น จนแต่ละคนพูดคำศัพท์ได้คล่อง
5.    ครูให้นักเรียนประเมินตนเองในการทำกิจกรรม (Talk  about  my  day,  the  time  and  countries.) ในหนังสือแบบฝึกหัด หน้า  73  หัวข้อ  I  can    โดยระบายสีรูป  Zed  ตามระดับความสามารถของตนเอง
6.    ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วย  (Unit  1  Test)  เพื่อประเมินความสามารถ
                                ข้อ 1  Listen, write the letters and answer the question.
·       ครูอ่านประโยคต่อไปนี้ ให้นักเรียนฟัง เพื่อนำตัวอักษรไปเติมลงในคำศัพท์ให้ถูกต้อง
1 It’s a school.                   2 It’s a computer.              3 The clock is in the box.
4 Spain is a country.         5 It’s seventeen.                6 It’s one.
7 It’s a rubber.                   8 It’s a skirt.
                       
                 Is it a pencil? No! They’re scissors. (นำคำที่ขีดเส้นใต้มารวมกัน)

                                 ข้อ 2  Look and circle: Yes or No.
·       ครูชี้ให้นักเรียนอ่านประโยคที่กำหนดให้ แล้วตอบว่าประโยคดังกล่าวจริง (Yes) หรือ เท็จ (No) จากรูปภาพที่กำหนดให้
                                                     1.  Yes            2  No                     3  No                     4  Yes

                      
5. การวัดและประเมินผล


วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์
-  สังเกตการพูด
-  สังเกตการทำกิจกรรม
-  ตรวจแบบทดสอบประจำหน่วย
แบบประเมินทักษะทางภาษา
แบบสังเกตการทำกิจกรรม
แบบทดสอบประจำหน่วย
Unit  1 Test
ร้อยละ 80-100  ดีมาก
ร้อยละ 70-79    ดี
ร้อยละ 60-69    พอใช้
ร้อยละ 50-59    ควรปรับปรุง



6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

                     1.     หนังสือเรียน  Zoom  ป. 3
                     2.       หนังสือแบบฝึกหัด  Zoom  ป.3
                   3.   Class Audio CD Zoom .3
                   4.   อุปกรณ์ในการเล่นเกม Street Game เช่น ลูกเต๋า, เหรียญ